วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2556

ข้อมูลธุรกิจกิฟฟารีน

ข้อมูลธุรกิจและสิทธิประโยชน์ของสมาชิกกิฟฟารีนกิฟฟารีน
สิทธิประโยชน์
1. สิทธิประโยชน์ของสมาชิกกิฟฟารีน
1) สมาชิกจะได้รับส่วนลดพื้นฐาน 25% จากราคาขายในแคตตาล็อค
2) รายได้จากการดำเนินธุรกิจอิสระ โดยการสร้างองค์กรผู้จำหน่าย ซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้อบรมให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ
3) ประกันอุบัติภัย 120,000 – 320,000 บาท
2. สิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกที่สนใจทำธุรกิจ
1) สมาชิกจะได้รับส่วนลดพื้นฐาน 25% จากราคาขายในแคตตาล็อค
2) รายได้จากการดำเนินธุรกิจอิสระ โดยการสร้างองค์กรผู้จำหน่าย ซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้อบรมให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ
3) ประกันอุบัติภัย 120,000 – 320,000 บาท
4) ผู้บริหารระดับพาราไดซ์ขึ้นไป ที่เข้าเงื่อนไขของบริษัทฯ จะได้รับการประกันอุบัติภัยในวงเงิน 500,000 - 1,000,000 บาท และจะได้รับค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ ในวงเงิน 50,000 – 100,000 บาทด้วย
5) สิทธิเข้าร่วมการแข่งขันท่องเที่ยวต่างประเทศของทางบริษัทฯ
6) สิทธิเข้าร่วมการแข่งขัน Rally Rewards ชิงรางวัลเงินสดสูงสุด 1,000,000 บาท
7) สิทธิเข้าร่วมแข่งขันรายการอื่นๆ ตามเงื่อนไขของทางบริษัทฯ
*หมายเหตุ สิทธิการรับรางวัลและผลตอบแทนใดๆ จากบริษัทฯ นักธุรกิจกิฟฟารีนต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ จรรยาบรรณของทางบริษัทฯ


การสมัครสมาชิก
1. ค่าเอกสารชุดสมัคร 180 บาท พร้อมรับคู่มือ
2. กรอกใบสมัครให้ถูกต้องชัดเจน แล้วยื่นแสดงต่อบริษัทฯหรือสถานทีที่บริษัทฯเปิดรับสมัครสมาชิกฯ
3. โปรดแสดงบัตรนักธุรกิจเครือข่าย หรือแจ้งรหัสธุรกิจทุกครั้งสั่งซื้อสินค้า หรือติดต่อใดๆกับบริษัทฯ ทั้งนี้เพื่อสิทธิประโยชน์สมาชิกเอง
4. สถานภาพการเป็นนักธุรกิจกิฟฟารีนมีสถานภาพตลอดชีพ นับจากเดือนที่สมัคร ตามกฎระเบียบ และเงื่อนไขของทางบริษัทฯ


การสั่งซื้อสินค้า 
1. สั่งซื้อ ณ ศูนย์ธุรกิจ
สมาชิกธุรกิจสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ได้ด้วยตัวเอง ณ ศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีนทั่วประเทศ
โดยกรอกใบสั่งซื้อ ชำระด้วยเงินสด หรือ บัตรเครดิต  และรับสินค้าด้วยตัวเอง ณ ศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีนทุกสาขา
2. สั่งซื้อสินค้าผ่านกิฟฟารีน  เดลิเวอรี่                                                                                                                                  
     Giffarine Delivery คือ อีกหนึ่งทางเลือกในการสั่งซื้อสินค้า ที่ทางกิฟฟารีนยินดีบริการให้ท่านใน รูปแบบใหม่ เน้นความสะดวก และประหยัดเวลา เพียงท่านโทรศัพท์มาสั่งซื้อสินค้าที่  โทร. 0-2619-5222 (กรุงเทพฯ) สินค้าทุกชิ้นจะส่งตรงถึงบ้านภายในวันที่ท่านสั่งซื้อทันที                                                                                                                                             
*หมายเหตุ ซื้อสินค้าครบ 1,500 PV ฟรีค่าจัดส่ง (ในวันถัดไป) และตามเงื่อนไขของบริษัทฯ 
3. ศูนย์ธุรกิจที่ให้บริการเดลิเวอรี่      
ศูนย์ธุรกิจให้บริการ Delivery มีทั้งหมด 52 ศูนย์





แผนธุรกิจ และวิธีการสะสมคะแนน

1. แผนธุรกิจ
2.  วิธีการสะสมคะแนน  การคำนวณคอมมิชชั่น จะคำนวณจากคะแนน หรือ Point Value (PV) เป็นหลักการดังต่อไปนี้
1) ผลิตภัณฑ์ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ (GROWMAX) และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่นๆ สามารถซื้อได้ในราคาลด 25% แล้วจึงนำมาคำนวณค่าคอมมิชชั่นได้ 70% ของราคาที่ลดแล้ว
ตัวอย่าง
ราคาเต็มของสินค้า        100         บาท
ราคาสมาชิก                  75          บาท
จำนวน PV คือ (70/100)*75= 52.2 PV
2) ผลิตภัณฑ์อื่นๆ เมื่อลด 25% แล้วราคาที่ลดจะเท่ากับจำนวน PV เช่น ชุดเครื่องสำอาง เครื่องใช้ในครัวเรือน ชุดบำรุงผิวกายและเส้นผม อาหารเสริม และเครื่องกรองน้ำ ฯลฯ
ตัวอย่าง
ราคาเต็มของสินค้า       100         บาท
ราคาสมาชิก                75           บาท
จำนวน PV คือ              75           PV
3) สินค้าสวัสดิการ ซึ่งมี PV กำหนด เช่น ข้าวสาร เส้นหมี่ แป้ง น้ำมันเครื่อง ฯลฯ


ขั้นตอนสู่ความสำเร็จ

1. ใช้สินค้าที่ชอบ
ด้วยการเลือกสินค้าที่ตัวเองชอบแล้วซื้อไปทดลองใช้ จะทำให้เราไม่เสียดายเงิน และไม่รู้สึกเหมือนถูกบีบบังคับ

2. เล่าประสบการณ์การใช้สินค้าให้คนใกล้ตัวฟัง
ด้วยการบอกว่าใช้แล้วรู้สึกว่าดีอย่างไร ประทับใจอะไรบ้างในสินค้าที่ตนเองใช้


3. ศึกษารายละเอียดของสินค้า (ที่ตัวเองชอบและมีความถนัด)
ด้วยการศึกษาจากแคตตาล็อค สอบถามจากผู้แนะนำ สอบถามจากผู้เชี่ยวชาญของบริษัท และเข้าประชุมกับบริษัทอย่างสม่ำเสมอ

4. เขียนรายชื่อผู้มุ่งหวัง
ด้วยการเขียนรายชื่อเพื่อนของเรา ญาติของเรา เพื่อนของญาติ และญาติของเพื่อน เป็นต้น โดยคนเหล่านี้คือคนที่เราคิดว่าเราจะไปพบปะพูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจกิฟฟารีนด้วย

5. พาตัวเองเข้างานประชุม
ทั้งประชุมกลุ่มย่อยตามศูนย์ต่างๆ และงานประชุมวันอังคาร ที่โรงแรมอินทรา หรืองานประชุมประจำเดือนในต่างจังหวัด จะทำให้เรารู้จักคนมากขึ้น ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ที่ประสบความสำเร็จ จะทำให้เรามีกำลังใจในการทำงาน

6. เข้าพบผู้มุ่งหวังโดยเน้นการสร้างสายสัมพันธ์
อย่ารีบร้อนแนะนำธุรกิจ หรือสินค้ามากจนเกินไป ควรทำให้ผู้มุ่งหวังประทับใจในตัวเราเสียก่อน ด้วยการสร้างบรรยากาศที่สบายๆ ไม่เครียดเกินไปและให้คิดเสมอว่า ถึงแม้วันนี้เขาจะไม่สมัครกับเรา แต่เรากับเขายังต้องเป็นเพื่อนกันอยู่ แนะนำสินค้าให้เหมาะสมกับความต้องการ และกำลังซื้อของผู้มุ่งหวัง

7. วิเคราะห์ผู้มุ่งหวัง เพื่อการดูแลที่เหมาะสม
ผู้มุ่งหวังที่ต้องการเป็นผู้บริโภค ให้รักษาสัมพันธภาพอย่างต่อเนื่อง และนำเสนอสินค้า ตลอดจนการบริการดูแลหลังการขาย ด้วยความสม่ำเสมอ
ผู้มุ่งหวังที่ต้องการทำเป็นธุรกิจ ให้นำเสนอธุรกิจและแผนงาน ด้วยวิธีการที่เหมาะสม และดูแลให้เขาเหล่านั้นสามารถสร้างธุรกิจจนเติบโตได้

8. ติดตามผลการใช้สินค้าของลูกค้า และรักษาสัมพันธภาพอย่างต่อเนื่อง

9. จัดทำอุปกรณ์ประกอบการขยายงาน
เช่น แฟ้มธุรกิจ แผนผังองค์กร สมุดรายชื่อผู้มุ่งหวัง เป็นต้น จะทำให้เราทำงานอย่างเป็นระบบ ตรวจสอบได้ และง่ายต่อการขยายธุรกิจ

10. สร้างวัฒนธรรมองค์กร
เช่น การตรงต่อเวลา การแต่งกายที่สุภาพ มีบุคลิกภาพของนักธุรกิจ การเคารพกฎและจรรยาบรรณของบริษัท โดยผู้ทำธุรกิจจะต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี เพื่อสร้างความศรัทธาและความน่าเชื่อถือแก่ทีมงาน

11. บริหารทีมงามด้วยความตั้งใจจริง
ความสำเร็จของธุรกิจ MLM ในระยะยาวมาจากการสร้างคนในทีมงาน ให้มีความสามารถ และสมารถขยายงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจแห่งการถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถไปสู่ทีมงานเป็นทอดๆ และประสบความสำเร็จร่วมกันทั้งทีมงาน

12. พัฒนาตนเอง และเสริมภาพลักษณ์ของความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่อง
บริษัทมีหลักสูตรพัฒนาบุคลิกภาพหลายหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง เช่น อบรมศิลปะการพูด การนำเสนอสินค้า การเปิดใจ การขจัดข้อโต้แย้ง การบริหารทีมงาน ตลอดจนพัฒนาบุคลิกภาพ และแต่งหน้าตนเองให้กับสมาชิกของเราอย่างสม่ำเสมอ


ข้อได้เปรียบทางธุรกิจ
มี Licence of Network และมีการคุ้มครองลิขสิทธิ์เครือข่าย(Protection of Network) อย่างสมบูรณ์แบบมีความชัดเจนในการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ทั้งแบรนด์ของธุรกิจและแบรนด์ของผลิตภัณฑ์
มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ทุกเศรษฐานะ และมีแนวทางการนำเสนอผลิตภัณฑ์อันเป็นที่ยอมรับโดยสากล (มีการแสดงแหล่งที่มาของวัตถุดิบและมีผลงานวิจัยหลายผลงานรับรอง) โดยผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ผลิตโดยบริษัทในเครือ
มีผลประกอบการที่สามารถอธิบายถึงการเติบโตในอนาคต โดยปี 2554 มียอดจำหน่ายสูงถึง 5,488,0000,000 บาท คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 11.7% จากปีที่ผ่านมา
ให้ผลตอบแทนคืนกลับแก่นักธุรกิจสูงที่สุดในประเทศไทย โดยมียอดจำหน่ายถึงปัจจุบันกว่า 45,488,000,000 บาท และมอบรายได้แก่นักธุรกิจกิฟฟารีนกว่า 20,700,000,000 บาท
ได้ทำการเสียภาษีในอัตราก้าวหน้าในส่วนของเงินปันผลแทนนักธุรกิจ
สร้างโอกาสอันเป็นไปได้จริงของมรดกตกทอดที่มอบให้แก่ทายาทนักธุรกิจเครือข่าย
มีระบบสนับสนุนทางการตลาดที่เปี่ยมประสิทธิภาพ
        - ศูนย์ธุรกิจพร้อมห้องประชุมกว่า 106 สาขา และมีศูนย์กิฟฟารีน ไลเซนส์ ช็อป ทั้งหมด 6 สาขา เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของนักธุรกิจทั่วประเทศ
        - การแสดงผลการตรวจสอบคุณภาพเครือข่าย (Network Monitoring) เพื่อให้นักธุรกิจกิฟฟารีนสามารถตรวจสอบวิเคราะห์และสามารถติดตามคุณภาพของเครือข่ายได้จึงทำให้นักธุรกิจกิฟฟารีนประสบความสำเร็จโดยมีต้นทุนในการทำงานที่น้อยที่สุด
        - กิฟฟารีน มีการจัดจำหน่ายสินค้าคุณภาพมาตรฐานสากลในราคาที่ยุติธรรมกว่า 2,000 รายการ ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่สามารถซื้อใช้และซื้อซ้ำได้ตลอดไป อันเป็นที่มาของรายได้ที่มั่นคง ยั่งยืนและเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาททางธุรกิจอย่างแท้จริง


เช็คยอดออนไลน์
เพื่อตอบรับกับรูปแบบการทำงานอันทันสมัย กิฟฟารีนให้ท่านนักธุรกิจสามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวธุรกิจท่านผ่านระบบคอมพิวเตอร์โดย username คือ รหัสสมาชิก และ Password คือ เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน 4 หลักสุดท้ายเมื่อท่าน Login แล้วสามารถเปลี่ยน Password ได้ตามที่ท่านต้องการ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/puugiffarine
สมัครสมาชิก Click Here..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น